เรื่องราวความสำเร็จ

IGG เพิ่ม ARPDAU จากโฆษณาได้ถึง 200% ด้วยแพลตฟอร์ม AdMob

IGG เพิ่ม ARPDAU จากโฆษณาได้ถึง 200% ด้วยแพลตฟอร์ม AdMob

ปกติแล้วเกมมักจะคงความนิยมในตลาดได้ยากหลังจากเปิดตัวไปแล้วหลายปี แต่ไม่ใช่กับ Lords Mobile เกมประเภทกลยุทธ์สำหรับผู้เล่นหลายคนที่เปิดตัวในปี 2016 ซึ่งมีรายได้ต่อเดือนสูงสุดถึง 66 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในเดือนธันวาคม 2020 และ IGG ผู้พัฒนาและผู้เผยแพร่ที่อยู่เบื้องหลังเกมนี้ก็มีเส้นทางความสำเร็จแบบเดียวกัน

ในช่วงแรก แม้บริษัทจะมีการเติบโตสูงด้วยแอปเกมมากกว่า 50 แอป แต่ก็ไม่ได้เร่งสร้างรายได้จากโฆษณา เมื่อมีรายได้ลดลง สุดท้ายบริษัทก็หันมาปรับปรุงกลยุทธ์การสร้างรายได้โดยใช้ AdMob ทั้งนี้หลังจากที่ IGG เริ่มใช้แพลตฟอร์ม AdMob และโซลูชันการเสนอราคาแล้ว เกมต่างๆ ก็มีอัตราการส่งโฆษณาเพิ่มขึ้น 2 เท่า และสร้างรายได้เฉลี่ยต่อจำนวนผู้ใช้ที่ใช้งานรายวัน (ARPDAU) จากโฆษณาได้มากขึ้นถึง 100-200%

ค้นหาแหล่งรายได้และข้อมูลเชิงลึกของลูกค้าแหล่งใหม่

เมื่อ "Castle Clash" ซึ่งเป็นเกมป้องกันปราสาทเริ่มอิ่มตัวและสร้างรายได้น้อยลงเรื่อยๆ ในแต่ละปี ทีมจึงทราบว่าถึงเวลาแล้วที่จะปรับรูปแบบการสร้างรายได้ที่มาจากการซื้อในแอป (IAP) เพียงอย่างเดียว เป้าหมายของทีมคือการเพิ่มรายได้ ใช้แหล่งรายได้ที่หลากหลาย และทำความเข้าใจมูลค่าตลอดอายุการใช้งาน (LTV) ของผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น

แต่ก่อนอื่น IGG ต้องขยายและเพิ่มขีดความสามารถของชุดเครื่องมือการสร้างรายได้ที่ใช้อยู่เพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว ขณะนั้นบริษัทมีกำลังพอในการลงทุนกับทรัพยากรต่างๆ ที่จะช่วยให้เข้าใจถึงผลกระทบที่โฆษณาในแอปอาจมีต่อการคงผู้ใช้ไว้ ตลอดจนช่วยเกี่ยวกับการทำการทดสอบอย่างละเอียด การศึกษาวิจัยตลาดล่าสุดของบริษัทระบุว่า เกมจากค่ายอื่นที่คล้ายกันได้ผลลัพธ์ที่ดีจากการใช้โฆษณาในแอปและ IAP ควบคู่กัน IGG จึงเริ่มค้นหาแพลตฟอร์มสื่อกลางและพาร์ทเนอร์ที่จะสามารถรองรับเกมจำนวนมากและสตูดิโอหลายแห่งในเครือได้ จากนั้นตัดสินใจเลือกใช้แพลตฟอร์มสื่อกลางของ Google AdMob เนื่องจากเป็นเครือข่ายที่มีประสิทธิภาพและความเสถียรในระดับสูงตามที่ต้องการ

การเป็นพาร์ทเนอร์อย่างใกล้ชิดและความพยายามในการปรับองค์กร

IGG เสริมความเชี่ยวชาญด้านการสร้างรายได้จากโฆษณาด้วยการตั้งทีมขึ้นมาเพื่อดูแลด้านนี้โดยเฉพาะ ซึ่งขยายจากพนักงานพาร์ทไทม์ 1 คนไปเป็น 3 คน และสร้างฟอรัมภายในสำหรับพูดคุยเกี่ยวกับคำถามที่พบบ่อยในหัวข้อดังกล่าว ฟอรัมนี้ช่วยให้ทีมแชร์แนวทางปฏิบัติต่างๆ และปรับปรุงประสิทธิภาพของการผสานรวม AdMob ในสตูดิโอเกมแต่ละแห่งได้สะดวก

ทีมได้ทำการศึกษาวิจัยผู้ใช้โดยประเมินความรู้สึกที่มีต่อโฆษณาในแอปเกมใหม่ 1 แอป เพื่อใช้ความคิดเห็นจากภายนอกนี้เป็นข้อมูลอ้างอิง และยังเริ่มใช้ชุดฟีเจอร์ต่างๆ ประกอบด้วยสื่อกลางแบบ Waterfall, การเสนอราคาของ AdMob และรายงานกลุ่มประชากรตามรุ่น รวมทั้งทำการทดสอบหลายชุดกับการสร้างรายได้จากโฆษณาด้วย ซึ่งรวมถึงการทดสอบโฆษณาในเกมที่สร้างรายได้จาก IAP เพียงอย่างเดียว

ในช่วงแรกที่ทำการทดสอบ Malen Li ตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดของ IGG และทีมเน้นที่การเปลี่ยนแปลงอัตราการส่งโฆษณาและ ARPDAU จากแอปเป็นส่วนใหญ่ "แต่เนื่องจากเราร่วมงานกับ AdMob ในเชิงลึก เราจึงต้องการโซลูชันที่แตกต่างกันสำหรับเกมแต่ละแบบ" Malen กล่าวถึงช่วงเริ่มต้นซึ่งทีมให้ความสำคัญกับการทำความเข้าใจ LTV และหาสมดุลระหว่าง IAP กับโฆษณาในแอปของแต่ละเกม

ทีมของ Malen ให้นักพัฒนาแอปของบริษัทเข้ามาร่วมดำเนินการตั้งแต่เริ่มแรก ช่วยให้เพิ่มการผสานรวม AdMob ลงในแผนกลยุทธ์ของทีมผลิตภัณฑ์ได้อย่างราบรื่น "ในปีที่ผ่านมามีการเปลี่ยนแปลงมากมายทั้งด้านผลิตภัณฑ์และองค์กร" Malen กล่าว

photo

"เนื่องจากเราร่วมงานกับ AdMob ในเชิงลึก เราจึงต้องการโซลูชันที่แตกต่างกันสำหรับเกมแต่ละแบบ และระหว่างที่ดำเนินการในขั้นตอนนี้ เราก็ต้องเรียนรู้อยู่เสมอเพื่อหาสมดุลระหว่าง IAP และการโฆษณาในแอป

Malen Li, ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด, IGG

ARPDAU เพิ่มขึ้นและเข้าใจเกี่ยวกับ LTV ได้ดีขึ้น

ในช่วงกลางปี 2020 เกม Castle Clash เริ่มมีรายได้จากโฆษณาสูงขึ้น ทำให้ IGG มีอัตราการส่งโฆษณาเพิ่มขึ้น 100% และมี ARPDAU จากโฆษณาในเกมต่างๆ เพิ่มขึ้นถึง 100-200% ปัจจุบันนี้ IGG ใช้การสร้างรายได้จากโฆษณากับเกมเล่นฆ่าเวลาใหม่โดยค่าเริ่มต้น นอกจากนี้ยังลงโฆษณาในแอปเกม 5-6 แอป และแอปอำนวยความสะดวกอีก 3-4 แอป โดยมอบหมายให้ทีมเฉพาะทางจัดการเกี่ยวกับกลยุทธ์โฆษณา และกำหนดเป้าหมายการสร้างรายได้จากโฆษณาร่วมกับทีมการปฏิบัติงานในสตูดิโอต่างๆ ด้วย การดำเนินการนี้ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงก้าวใหญ่ในปีที่ผ่านมา จากที่แต่เดิมทีมการปฏิบัติงานไม่ได้กำหนดเป้าหมายการสร้างรายได้จากโฆษณาไว้เลย แม้เกมจะสามารถใช้วิธีสร้างรายได้รูปแบบผสมได้ก็ตาม

หลังจากที่ใช้รายงานกลุ่มประชากรตามรุ่น IGG ก็สามารถติดตามการเปลี่ยนแปลงต่างๆ เกี่ยวกับ LTV ของผู้ใช้ได้อย่างใกล้ชิดขณะเปลี่ยนไปใช้วิธีรูปแบบผสม อีกทั้งบริษัทยังเข้าใจ LTV ในระดับประเทศได้ดียิ่งขึ้นด้วย ซึ่งช่วยให้ระบุโอกาสการเติบโตในตลาดแต่ละแห่งและเน้นตลาดที่มี ROI สูงกว่าได้ ข้อมูลเชิงลึกที่นำไปใช้ได้จริงนี้ช่วยให้ IGG เพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญการได้ผู้ใช้ใหม่ และเพิ่มรายได้ที่มาจากตลาดระดับบนได้ 2 เท่า "ถ้าเราไม่เริ่มใช้ AdMob และรายงานกลุ่มประชากรตามรุ่นกับแอปอำนวยความสะดวก เราคงไม่สามารถหาผู้ใช้ใหม่ในขอบเขตที่กว้างต่อไปได้" Malen กล่าว

ทุกวันนี้ IGG ยังคงมุ่งมั่นค้นหาโอกาสใหม่ๆ ผ่านการวิจัยตลาดอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างรายได้จากเกมต่างๆ ในรูปแบบผสม ซึ่งรวมถึงเกมไขปัญหาแบบสวมบทบาท Malen กล่าวว่า "ระหว่างที่ดำเนินการในขั้นตอนนี้ เราก็ต้องเรียนรู้อยู่เสมอเพื่อหาสมดุลระหว่าง IAP และการโฆษณาในแอป เรารู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เห็นธุรกิจพัฒนาไปอีกขั้นโดยใช้สิ่งที่ได้เรียนรู้อยู่ตลอดเวลา"