Game Insight ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2009 ที่เมืองวิลนีอุส ประเทศลิทัวเนีย และเริ่มสร้างเกมในอุปกรณ์เคลื่อนที่และเกมโซเชียลชั้นยอดนับตั้งแต่นั้น ทีมเติบโตขึ้นเรื่อยๆ จนมีนักพัฒนาซอฟต์แวร์กว่า 600 คนและขึ้นชื่อเรื่องการผลิตชุดเกมที่ล้ำสมัยและประสบความสำเร็จอย่างเช่น Survival Arena, Airport City และ Guns of Boom แม้ว่า Game Insight จะประสบความสำเร็จในระดับโลก แต่ก็ยังต้องต้องการวิธีใหม่ๆ ในการเพิ่มรายได้จากเกมกลยุทธ์สุดหินที่ชื่อ Survival Arena หลังจากที่ใช้การแบ่งกลุ่มลูกค้าแบบอัจฉริยะร่วมกับโฆษณาคั่นระหว่างหน้าในเกม บริษัทได้รับรายได้จากโฆษณาเพิ่มขึ้น 30% โดยไม่แย่งรายได้ในส่วนการซื้อในแอปที่มีอยู่
การสร้างรายได้โดยไม่ทำให้เกมเมอร์รู้สึกแปลกแยก
รายได้ของ Game Insight มาจากทั้งการซื้อในแอปและโฆษณาที่มีการให้รางวัลเป็นหลักเนื่องจากเกมมีประสิทธิภาพดีและมอบประสบการณ์ใช้งานโฆษณาที่ราบรื่น ทีมหวังที่จะแสดงโฆษณารูปแบบอื่นๆ แก่ผู้ใช้ที่ไม่ได้จ่ายเงินเพื่อเพิ่มรายได้ให้มากยิ่งขึ้น แต่ก็กังวลว่าโฆษณาเหล่านี้จะแสดงแก่ผู้เล่นที่ทำการซื้อในแอปบ่อยครั้ง ซึ่งท้ายที่สุดจะส่งผลเสียต่ออัตรา Conversion การซื้อในแอปและทำให้ผู้ใช้ที่จ่ายเงินเลิกใช้งาน
“เราใช้ผลิตภัณฑ์หลายอย่างของ Google อยู่แล้วและรู้ว่าผลิตภัณฑ์เหล่านั้นมีประสิทธิภาพเพียงใด AdMob จึงเป็นตัวเลือกเด่นที่เราคิดว่าควรลองใช้ เรารู้สึกตื่นเต้นเป็นพิเศษเมื่อได้ทราบเกี่ยวกับการแบ่งกลุ่มลูกค้าแบบอัจฉริยะ เพราะฟีเจอร์นี้จะคอยดูแลไม่ให้โฆษณาคั่นระหว่างหน้าแสดงแก่ผู้ใช้ที่มีแนวโน้มจะใช้จ่าย ไม่เช่นนั้นผู้ใช้เหล่านี้อาจออกจากเกมของเรา” Maria Tyutina หัวหน้าแผนกการสร้างรายได้ของ Game Insight กล่าว
การแสดงโฆษณาที่เหมาะกับผู้ใช้ที่ตรงกลุ่ม
การแบ่งกลุ่มลูกค้าแบบอัจฉริยะใช้แมชชีนเลิร์นนิงเพื่อคาดคะเนพฤติกรรมการซื้อของผู้ใช้และแบ่งกลุ่มผู้ใช้ออกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่
- ผู้ที่ไม่ซื้อที่คาดไว้: ผู้ใช้ที่ไม่มีแนวโน้มจะซื้อในแอป
- ผู้ซื้อที่คาดไว้: ผู้ใช้ที่มีแนวโน้มจะซื้อในแอป
เมื่อใช้การแบ่งกลุ่มลูกค้าแบบอัจฉริยะ ระบบจะตอบสนองเฉพาะคำขอโฆษณาสำหรับผู้ที่ไม่ซื้อที่คาดไว้เท่านั้น และไม่ตอบสนองคำขอโฆษณาสำหรับผู้ซื้อที่คาดไว้ การจำกัดจำนวนโฆษณาที่แสดงแก่ผู้ที่อาจซื้อจะช่วยป้องกันไม่ให้โฆษณาขัดขวางการทำ Conversion การซื้อในแอป
ทีมพบว่าการใช้งานฟีเจอร์นี้ไม่ซับซ้อนเลย และเลือกที่จะเพิ่มช่องโฆษณาคั่นระหว่างหน้าเข้าไปในเกมอีก 1 ช่องและเปิดใช้การแบ่งกลุ่มลูกค้าแบบอัจฉริยะไว้ นอกจากนี้ยังกำหนดขีดจำกัดในการแสดงโฆษณาเพื่อไม่ให้โฆษณาแสดงแก่ผู้เล่นใหม่เร็วเกินไป ทำให้ผู้เล่นมีเวลาเล่นเกมนานขึ้นและอาจทำการซื้อในแอปโดยที่ไม่ต้องแสดงข้อความแจ้ง “การแบ่งกลุ่มลูกค้าแบบอัจฉริยะช่วยให้เรากำหนดขีดจำกัดนี้ได้ต่ำกว่าปกติมาก นั่นคือ 2 ชั่วโมงหลังจากที่ผู้เล่นเริ่มเล่นเกมครั้งแรกเมื่อเทียบกับ 24 ชั่วโมงสำหรับโฆษณาคั่นระหว่างหน้าอื่นๆ” Maria อธิบาย
เมื่อเปิดใช้การแบ่งกลุ่มลูกค้าแบบอัจฉริยะ รูปแบบก็เริ่มระบุผู้ใช้ที่มีแนวโน้มว่าจะซื้อกับไม่มีแนวโน้มว่าจะซื้อทันที “เราเริ่มใช้โฆษณาในเกมแบบใหม่นี้อย่างค่อยเป็นค่อยไปและคอยติดตามผลที่มีต่อประสบการณ์เล่นเกมของผู้เล่นและเมตริกต่างๆ ไปด้วย ผลที่ได้คือไม่มีการลดลงสำหรับ KPI หลักๆ อย่างเช่น การซื้อในแอป การคงผู้ใช้ไว้ หรือการมีส่วนร่วม เราจึงนำไปใช้กับผู้เล่นทั้งหมด”
การเริ่มใช้งานกับผู้ใช้ทั้งหมด
Game Insight เปิดใช้การแบ่งกลุ่มลูกค้าแบบอัจฉริยะใน Survival Arena ภายใน 1 สัปดาห์และเห็นว่ารายได้จากโฆษณาเพิ่มขึ้น
ทีมสังเกตเห็นว่าโฆษณาคั่นระหว่างหน้าไม่ส่งผลเสียต่อรายได้จากการซื้อในแอปหรือต่อเกมเพลย์ “นี่เป็นทางออกที่รวดเร็วที่เรานำมาใช้เพิ่มรายได้และผสานรวมไว้ในเกมเพลย์ได้อย่างราบรื่นอย่างที่เราต้องการ เราเริ่มนำโฆษณาคั่นระหว่างหน้าไปใช้ในเกมอื่นๆ ซึ่งก็ให้ผลลัพธ์ทีดีมากเช่นกัน” นอกจากจะลองใช้การแบ่งกลุ่มลูกค้าแบบอัจฉริยะแล้ว Game Insight ยังเป็นพาร์ทเนอร์กับ AdMob เพื่อใช้สื่อกลางโฆษณาคั่นระหว่างหน้าด้วย “เราได้ทดลองใช้สื่อกลาง AdMob ใน Survival Arena ซึ่งให้ผลลัพธ์ที่น่าทึ่งมาก โดยเริ่มใช้สำหรับวิดีโอที่มีการให้รางวัลในเกมอื่นๆ บางเกม” Maria กล่าวปิดท้าย
ในอนาคต Maria และทีมวางแผนที่จะทดลองใช้ฟีเจอร์อื่นๆ ของ AdMob มากขึ้น ปัจจุบัน Game Insight มีเกมอยู่ 10 เกมและมีแผนที่จะเริ่มใช้การแบ่งกลุ่มลูกค้าแบบอัจฉริยะและสื่อกลาง AdMob ในเกมส่วนใหญ่
หากสนใจยกระดับกลยุทธ์การสร้างรายได้ขึ้นไปอีกขั้น ขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ AdMob วันนี้เลย