บริษัทเกมจากกรุงโซล Dreamotion Inc. ได้เปิดตัว Road to Valor: World War II ซึ่งเป็นเกมที่พัฒนาขึ้นภายในระยะเวลาเพียง 16 เดือนจากการศึกษาข้อมูลเชิงลึกเพื่อถ่ายทอดเหตุการณ์ในอดีตอย่างถูกต้อง JunYoung Lee ตำแหน่ง CEO และผู้ก่อตั้ง กล่าวว่า "เราภูมิใจที่ได้สร้างสรรค์เกมคุณภาพสูงให้รวดเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้" เกมนี้เป็นเกมสนามประลองออนไลน์ที่มีผู้เล่นหลายคน (MOBA) ในเวอร์ชันโฉมใหม่ โดยมีชื่อใหม่ที่บ่งบอกถึงรายละเอียดสมจริงและเป้าหมายในการเข้าถึงผู้เล่นวัยผู้ใหญ่มากขึ้น
แม้ทีมจะทำงานได้อย่างรวดเร็ว แต่ขั้นตอนการเปิดตัวนั้นไม่ได้ประสบความสำเร็จในชั่วข้ามคืน บริษัทต้องเริ่มวางกลยุทธ์การโฆษณาใหม่เพราะ Road to Valor มีรายได้ที่ไม่ตรงตามเป้าหมาย แต่หลังจากที่เปลี่ยนมาใช้โฆษณาที่มีการให้รางวัลของ AdMob Dreamotion ก็พบว่าราคาต่อการแสดงผลพันครั้ง (eCPM) เพิ่มขึ้นถึง 70% รวมทั้งยังมีรายได้เฉลี่ยต่อจำนวนผู้ใช้ที่ใช้งานรายวัน (ARPDAU) มากขึ้น 2 เท่า และมีรายได้จากโฆษณาทั้งหมดเพิ่มขึ้นกว่า 2.5 เท่า
เพิ่มประสิทธิภาพโฆษณาเพื่อกระตุ้น eCPM
เมื่อปี 2019 Dreamotion สังเกตว่าแพลตฟอร์มการสร้างรายได้จากโฆษณาที่ใช้อยู่ให้ผลลัพธ์ eCPM ที่ไม่น่าพอใจ แม้บริษัทดำเนินงานตามข้อเสนอพิเศษเกี่ยวกับโฆษณาที่มีการให้รางวัลมาตลอดระยะเวลา 1 ปี แต่แล้ว Road to Valor ก็ไม่ได้รับความนิยมเท่าที่คาดไว้ เริ่มแรกทีมกำหนดอัตราส่วนการสร้างรายได้จากการซื้อในแอป (IAP) ต่อโฆษณาเป็น 80:20 แต่แหล่งรายได้ทั้ง 2 แหล่งนี้ก็สร้างรายได้เป็นจำนวนไม่มากนัก รายได้จากโฆษณามีสัดส่วนเพียง 10% จากรายได้ทั้งหมด อีกทั้ง ARPDAU จาก IAP ก็ให้ประสิทธิภาพต่ำกว่าที่คาดการณ์
เมื่อยอดผู้ใช้ที่เพิ่มขึ้นช้าและรายได้ที่ลดลงเริ่มส่งผลต่อกำลังใจในการดำเนินงานของบริษัท Dreamotion ก็ได้เริ่มพลิกฟื้นธุรกิจกลับมาโดยปรับปรุงข้อเสนอ IAP รวมถึงยังเปิดตัวการสมัครใช้บริการรายเดือนแบบมีค่าบริการคงที่ ตลอดจนมอบตัวเลือกการซื้อที่อิงตามบริบทมากขึ้น นอกจากนี้ทีมยังปรับปรุงขั้นตอนการแสดงโฆษณาที่มีการให้รางวัลใหม่เพื่อให้มี eCPM ที่สามารถแข่งขันได้มากขึ้นอีกด้วย
จากที่ก่อนหน้านี้ผู้ใช้ต้องรอ 3-24 ชั่วโมงจึงจะได้รับรางวัลหากเลือกไม่ดูโฆษณา และจะได้รับรางวัลในระยะเวลาที่สั้นลง 3 ชั่วโมงหากเลือกดูโฆษณา ทีมก็ได้เปลี่ยนมาให้ผู้ใช้เลือกดูโฆษณาอีกรายการได้ในอีก 4 ชั่วโมงข้างหน้าเพื่อให้ได้รับรางวัลเร็วขึ้น กลยุทธ์ใหม่นี้ช่วยลดช่วงเวลาระหว่างการแสดงโฆษณาแต่ละรายการได้ 4 ชั่วโมง และเปลี่ยนไปจำกัดจำนวนครั้งที่ดูโฆษณาแทน
นับตั้งแต่นั้นมา เมตริกก็เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น โดยทีมสังเกตว่าจำนวนการดูโฆษณาต่อผู้ใช้และรายได้จากโฆษณารายวันเพิ่มขึ้น ในขณะเดียวกันก็ไม่มีผลกระทบเชิงลบใดๆ ต่อเวลาการเล่น ความพึงพอใจของผู้ใช้ การคงผู้ใช้ไว้ หรือความคิดเห็นจากผู้ใช้เลย แนวคิดใหม่นี้ส่งผลให้ Dreamotion เริ่มพิจารณาถึงวิธีการนำสิ่งที่ได้เรียนรู้นี้ไปใช้ในขอบเขตที่กว้างขึ้น ซึ่งประเด็นหลักที่ทีมอยากหาคำตอบก็คือ การใช้เครือข่ายโฆษณาอื่นเพิ่มจะช่วยสร้างรายได้จากโฆษณาได้มากยิ่งขึ้นหรือไม่
ย้าย Google AdMob ไปอยู่อันดับแรกสุดของ Waterfall
ทีมได้ปรับข้อตกลงรายปีที่ทำกับแพลตฟอร์มการสร้างรายได้บุคคลที่สามเพื่อให้ทำการทดสอบกับเครือข่าย AdMob ได้ "เราเปลี่ยนมาใช้ AdMob เพราะเราได้ยินเสียงตอบรับที่ยอดเยี่ยมเกี่ยวกับประสิทธิภาพของเครือข่ายนี้จากบริษัทในแวดวงเดียวกัน" JunYoung กล่าว
บริษัทเริ่มทำการทดสอบโดยสร้างตำแหน่งโฆษณาที่มีการให้รางวัลขึ้นมาใหม่ แล้วกำหนดให้ AdMob อยู่ในอันดับแรกสุดของ Waterfall และให้ผู้ให้บริการเดิมแสดงโฆษณาทดแทน จากนั้นวางโฆษณาที่มีการให้รางวัลใหม่ในหน้าซื้อสินค้าซึ่งก่อนหน้านี้นำเสนอเฉพาะ IAP เท่านั้น ซึ่งการดำเนินการปรับปรุงในขั้นตอนนี้ใช้เวลาเพียงไม่ถึง 1 สัปดาห์
เมื่อผู้ใช้แสดงความคิดเห็นว่าอยากดูโฆษณาที่มีการให้รางวัลมากขึ้น ทีมก็ได้ทดสอบการใช้โฆษณาใหม่เป็นเวลา 2 สัปดาห์ซึ่งเปิดตัวต่อผู้ใช้ Android และ iOS ทั้ง 100% ในช่วงการทดสอบระยะแรก Dreamotion ได้วัด eCPM, รายได้จากโฆษณาทั้งหมด, จำนวนโฆษณาที่ผู้ใช้แต่ละคนดู รวมถึงการคงผู้ใช้ไว้ โดยติดตามดูประสิทธิภาพของ eCPM และผลกระทบต่อรายได้จากโฆษณาทั้งหมดเป็นพิเศษ อีกทั้งยังรักษาประสบการณ์ของผู้ใช้ให้มีคุณภาพสูงอยู่เสมอ หลังจากพบว่า AdMob ให้ประสิทธิภาพดีกว่าอีกเครือข่ายอย่างชัดเจน ทีมก็ได้ย้าย AdMob ไปอยู่ในตำแหน่งแรกของการตั้งค่า Waterfall อย่างเป็นทางการ
เมตริกรายได้และความคิดเห็นของผู้ใช้ต่างช่วยยืนยันถึงประสิทธิภาพของโฆษณาที่มีการให้รางวัล
เพียงช่วง 2 สัปดาห์ของการทดสอบ Dreamotion ก็ได้รับ ARPDAU เพิ่มขึ้นถึง 2 เท่า มีรายได้จากโฆษณาเพิ่มขึ้น 2.5 เท่า และ CPM โดยเฉลี่ยเพิ่มขึ้นจนเกือบถึง 80% นอกจากนี้ยังไม่พบตัวบ่งชี้ใดๆ ว่ากลยุทธ์โฆษณาใหม่นี้แย่งรายจากได้ IAP ส่วนเมตริกการคงผู้ใช้ไว้ยังคงเท่าเดิม และผู้ใช้ต่างขอแสดงให้แสดงโฆษณาที่มีการให้รางวัลเพิ่มขึ้นอีก 2 เท่า ซึ่งแม้ว่า Dreamotion จะแสดงโฆษณาดังกล่าวสูงสุด 5 รายการ แต่ผู้ใช้ก็ยังต้องการให้แสดงเพิ่มอีกเป็น 10 รายการ
"ARPDAU และรายได้จากโฆษณาที่เพิ่มขึ้น 2 เท่าจากการใช้ AdMob เป็นผลลัพธ์ที่ดีเกินคาด และช่วยให้เราเปลี่ยนแนวคิดเกี่ยวกับการสร้างรายได้จากโฆษณาไปเลย AdMob ทำให้รู้สึกว่าเราเป็นพาร์ทเนอร์คนสำคัญ ทั้งยังให้การสนับสนุนและผลลัพธ์ที่ดีอย่างสม่ำเสมอ เราจึงหันมาใช้โฆษณาที่มีการให้รางวัลของ AdMob กับเกมที่เปิดตัวไปแล้ว และวางแผนว่าจะใช้กับเกมใหม่ๆ ที่กำลังจะเปิดตัวด้วย" JunYoung กล่าว
Dreamotion วางแผนว่าจะเปิดตัวการอัปเกรด World War II ซึ่งรวมถึงโหมดต่อสู้แบบ 2 ต่อ 2 ด้วย ทั้งยังจะเปิดตัวเกม RPG แบบเล่นได้เรื่อยๆ ในช่วงปลายปี 2020 ตลอดจนปรับปรุงวิธีการสร้างรายได้ใหม่โดยยึดอัตรารายได้ของโฆษณาที่มีการให้รางวัลต่อ IAP เป็น 30:70 นอกจากนี้ทีมยังวางแผนขยายการให้บริการเกมที่มีเนื้อเรื่องน่าดึงดูดนี้บน PC และเครื่องเล่นเกมคอนโซลเพิ่มเติม JunYoung กล่าวว่า "เป้าหมายสูงสุดของเราคือการเป็นบริษัทที่สร้างเกมคุณภาพสูงได้อย่างรวดเร็วในทุกประเภทและทุกแพลตฟอร์ม"