เรื่องราวความสำเร็จ

CrazyLabs ได้รับ ARPU เพิ่มขึ้นสูงสุดถึง 5% เมื่อใช้โฆษณาเปิดแอป

CrazyLabs ได้รับ ARPU เพิ่มขึ้นสูงสุดถึง 5% เมื่อใช้โฆษณาเปิดแอป

CrazyLabs ผู้เผยแพร่เกมแนว Hyper-Casual และเกมเล่นฆ่าเวลา เป็นธุรกิจระดับโลกและมีสำนักงานทั่วยุโรป เอเชีย และตะวันออกกลาง ซึ่งเกมของบริษัทเปิดให้บริการแก่กลุ่มเป้าหมายทั่วโลกและมียอดดาวน์โหลดแล้วกว่า 4.7 พันล้านครั้ง CrazyLabs ถือเป็นผู้นำระดับโลกในด้านการพัฒนาเกมแบบไลฟ์เซอร์วิส โดยมีผลงานเกมยอดนิยมอย่าง Super Stylist - Makeover & Style Fashion Guru, Tie Dye และ Phone Case DIY

เมื่อ CrazyLabs ค้นหาวิธีเพิ่มรายได้จากโฆษณาภายในเกมที่ออกมาระยะหนึ่งแล้ว ทางบริษัทได้ลองใช้โฆษณารูปแบบใหม่อย่างโฆษณาเปิดแอปของ AdMob (เวอร์ชันเบต้า) โฆษณารูปแบบนี้จะแสดง 1 ครั้งต่อเซสชันเกม โดยจะปรากฏขึ้นทันทีหลังจากที่ผู้ใช้แตะเปิดแอป CrazyLabs หวังว่าการใช้โฆษณารูปแบบนี้จะช่วยเพิ่มรายได้เฉลี่ยต่อผู้ใช้ (ARPU) และจะสามารถนำไปใช้กับเกมอื่นๆ ได้อย่างสะดวกง่ายดาย จากการทดลองนี้ ทีมได้รับ ARPU เพิ่มขึ้น 3-5% ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่สูงสำหรับเกมที่ออกมาระยะหนึ่งแล้วและเริ่มอิ่มตัว ความสำเร็จในครั้งนี้ทำให้บริษัทตัดสินใจที่จะเริ่มแสดงโฆษณารูปแบบดังกล่าวต่อกลุ่มเป้าหมายทั่วโลกในวงกว้างมากขึ้น

การใช้โฆษณาหลากหลายรูปแบบให้ลงตัว

CrazyLabs พัฒนาเกมแนว Hyper-Casual และเกมเล่นฆ่าเวลา ซึ่งเป็นแนวเกมที่ผู้ใช้จะต้องพบกับโฆษณาจำนวนมาก ซึ่งการแสดงโฆษณาในปริมาณมากนี้ทำให้ทีมต้องไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วนว่าการเปลี่ยนแปลงที่ทำขึ้นเพื่อเพิ่มรายได้จะต้องยังคงรักษาความสนุกของผู้เล่นได้โดยไม่แย่งรายได้จากโฆษณารูปแบบอื่น CrazyLabs ใช้โฆษณาหลากหลายรูปแบบ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือโฆษณาคั่นระหว่างหน้าที่สร้างรายได้ให้บริษัทได้เป็นอย่างมาก ทีมจึงพยายามหาวิธีปกป้องแหล่งรายได้ดังกล่าวและเพิ่มรายได้จากช่องทางอื่นไปพร้อมกัน

Nofar Cohen ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ฝ่ายการสร้างรายได้จากโฆษณาและการปฏิบัติการด้านธุรกิจกล่าวว่า "ในการกำหนดค่าการแสดงโฆษณา เรามักจะใช้บัฟเฟอร์ขั้นต่ำเพื่อแสดงในระหว่างโฆษณาแต่ละรายการ" ซึ่งเป็นการอธิบายถึงวิธีที่ CrazyLabs ใช้ในการรักษาประสบการณ์ที่ดีให้แก่ผู้เล่น "มันคือความสมดุลที่ลงตัว" เมื่อ CrazyLabs ได้ทราบข้อมูลเกี่ยวกับโฆษณาเปิดแอปมากขึ้น สิ่งที่บริษัทชอบก็คือ UI ที่ชัดเจนและโฆษณาที่แสดงเพียง 1 ครั้งต่อเซสชัน

ตัวอย่างกลุ่มเล็กๆ กับสูตรที่เหมาะสม

เมื่อต้องตัดสินใจเลือกเกมที่เหมาะกับการทดสอบ A/B มากที่สุด CrazyLabs ก็ได้พิจารณาเกมแนว Hyper-Casual ที่มีเซสชันผู้ใช้จำนวนมาก ซึ่งเซสชันเดี่ยวที่เกิดขึ้นจำนวนมากหมายความว่าผู้ใช้เปิดและเปิดเกมบ่อยกว่าเกมแนวอื่น และทุกครั้งที่ผู้ใช้ทำเช่นนี้ ก็จะเห็นหน้าโฆษณาแสดงขึ้น ทีมได้เลือกเกมมาประมาณ 3-4 เกมเพื่อนำไปทดสอบภายในสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่นๆ โดยใส่โฆษณาเปิดแอปไว้ในเกมเวอร์ชัน iOS เป็นการทดสอบ A/B

CrazyLabs เริ่มแสดงโฆษณาเปิดแอปต่อฐานผู้ใช้บางส่วนและประเมินผลลัพธ์ที่ได้โดยใช้การกำหนดค่าระยะไกลของ Firebase

นอกจากนี้ CrazyLabs ยังใช้ข้อมูลจากบุคคลที่หนึ่งเกี่ยวกับพฤติกรรมการเล่นเกมร่วมกับการกำหนดค่าระยะไกลของ Firebase เพื่อค้นหาผู้ใช้ที่ตรงกลุ่มและความถี่ที่เหมาะสมในการแสดงโฆษณา Nofar กล่าวว่า "แต่ละเกมต่างก็มีสูตรเฉพาะตัว" และยังกล่าวอีกว่า "ในกรณีส่วนใหญ่แล้ว โฆษณาเปิดแอปถือว่าช่วยเพิ่มประสิทธิภาพโฆษณาได้เป็นอย่างดี"

ในระหว่างการทดสอบ CrazyLabs คาดหวังว่า ARPU จะเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 3% ก่อนที่จะเริ่มนำโฆษณารูปแบบดังกล่าวไปใช้ในเกมยอดนิยมอื่นๆ ให้มากขึ้น Nofar กล่าวว่า "การทำการเปลี่ยนแปลงกับเกมที่เปิดให้บริการมาเป็นเวลานานนั้นเป็นเรื่องที่ยากมาก ดังนั้น 3% จึงเป็นตัวเลขที่สูงมาก และหากได้ 5-10% ก็ถือว่าสูงเกินคาด" นอกจากนี้ CrazyLabs ยังให้ความสำคัญกับระยะเวลาการเล่นโดยรวมเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ใช้เลิกเล่นเกมกลางคันเนื่องจากเห็นโฆษณามากกว่าเดิม

photo

เมื่อใดก็ตามที่เราทำการทดสอบโฆษณาเปิดแอปในเกม การทดสอบ 95% ได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ

Nofar Cohen, ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ฝ่ายการสร้างรายได้จากโฆษณาและการปฏิบัติการด้านธุรกิจ, CrazyLabs

การทำได้เกินความคาดหวังและการนำไปใช้ในวงกว้างยิ่งขึ้น

หลังจากทำการทดสอบ CrazyLabs มี ARPU เพิ่มขึ้น 3-5% ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์เดิมของบริษัท โฆษณาเปิดแอปยังให้ CPM ที่สูงที่สุดเมื่อเทียบกับโฆษณารูปแบบอื่นๆ ที่ทีมใช้ในขณะนั้น แม้ว่าผู้ใช้จะต้องดูโฆษณามากขึ้น แต่ระยะเวลาในเซสชันการเล่นก็ไม่มีการเปลี่ยนแปลงที่สังเกตเห็นได้ชัดซึ่ง Nofar ถือว่าเป็นผลลัพธ์ที่ดี

Nofar อธิบายว่า "KPI ด้านการมีส่วนร่วมไม่ได้รับผลกระทบจากการเพิ่มโฆษณารูปแบบใหม่นี้ และ ARPU ของเราก็ยังเพิ่มขึ้นด้วย"

CrazyLabs กำลังขยายการใช้โฆษณาเปิดแอปให้ครอบคลุมเกมแนว Hyper-Casual ของตนทั้งหมด รวมทั้งทำการทดลองกับโฆษณารูปแบบใหม่นี้ในวงกว้างยิ่งขึ้นอย่างมาก สำหรับขั้นตอนถัดไป บริษัทจะทดสอบการใช้โฆษณาเปิดแอปเป็นเครื่องมือการโปรโมตแอปอื่นในช่องทางต่างๆ และเพิ่มรายได้จากความต้องการวิดีโอที่เพิ่งเปิดตัว รวมทั้งสร้างโฆษณาเปิดแอปสำหรับผู้ใช้ Android ด้วย