Toss รักษา UX ของแอปไปพร้อมกับเพิ่มรายได้ 891% ด้วย AdMob ได้อย่างไร

Toss ซึ่งเป็น "ซูเปอร์แอป" จากเกาหลีใต้มีการนำไปใช้อย่างแพร่หลายในประเทศบ้านเกิด โดยมีผู้ใช้ที่ใช้งานอยู่รายเดือน (MAU) 24 ล้านคน ณ เดือนกรกฎาคม 2025 แอป Toss ซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะซูเปอร์แอปเนื่องจากรวมบริการต่างๆ ไว้ในแพลตฟอร์มเดียว ดึงดูดผู้ใช้อายุน้อยที่เชี่ยวชาญด้านมือถือซึ่งต้องการจัดการงานด้านการเงินส่วนบุคคลในที่เดียว

เนื่องจากเดิมทีผู้คนส่วนใหญ่ใช้แอปนี้เพียงไม่กี่ครั้งต่อปี Toss จึงเริ่มเปิดตัวบริการใหม่ๆ มากถึง 40 รายการต่อปีเพื่อกระตุ้นการมีส่วนร่วม เช่น Toss Walk ซึ่งเป็นเครื่องมือนับก้าวที่ช่วยติดตามสมรรถภาพทางกาย Toss ได้ร่วมมือกับ Google โดยเลือกใช้ AdMob เนื่องจากมีความเสถียรทางเทคนิค เน้นที่คุณภาพโฆษณา และมีทีมสนับสนุนที่พร้อมให้ความช่วยเหลือ เพื่อสร้างรายได้ใหม่ไปพร้อมกับรักษาประสบการณ์ใช้งานที่ดีสำหรับผู้ใช้

ขณะที่ Toss ทดลองใช้โฆษณา ทีมต้องการดึงดูดผู้ใช้ แต่ก็ต้องการรักษาภาพลักษณ์ที่ดีของแบรนด์ไว้ด้วย ประสบการณ์การใช้งานที่เหมาะสมคือโฆษณาที่ดึงดูดความสนใจของผู้ใช้แต่ไม่รบกวนการใช้งาน

อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์เริ่มต้นแสดงให้เห็นว่าการมีส่วนร่วมต่ำกว่าที่คาดไว้ ผู้ใช้ปิดแอป Toss ทันทีที่เห็นโฆษณา ซึ่งเป็นสัญญาณว่าโฆษณาไม่ได้ให้คุณค่ามากพอ โฆษณาต้องมอบประสบการณ์การใช้งานที่น่าสนใจมากขึ้นและสอดคล้องกับแบรนด์

ในการปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานโฆษณา Toss ตัดสินใจสร้างรายได้จากการมีส่วนร่วมในแอปโดยใช้โฆษณาแบบเป็นโปรแกรมเพื่อทำให้ฟีเจอร์ Toss Walk มีความยั่งยืนไปพร้อมๆ กับรักษาความไว้วางใจของลูกค้าไว้ โฆษณาแบบเป็นโปรแกรมช่วยให้ Toss สามารถมอบประสบการณ์การใช้งานโฆษณาที่สมจริงซึ่งดึงดูดผู้ใช้แอปได้ดีขึ้นในทุกอุปกรณ์หรือแพลตฟอร์ม

Toss ให้ความสำคัญกับการปกป้องแบรนด์เป็นอันดับแรก จึงต้องการพาร์ทเนอร์ที่จะช่วยสนับสนุนการปรับขนาดโฆษณา แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องการให้ความสำคัญกับ UX และคุณภาพของโฆษณาเพื่อประโยชน์ของแบรนด์ด้วย Toss ได้เลือก Google AdMob เพื่อสนับสนุนวัตถุประสงค์ของบริษัท ทั้งนี้ส่วนใหญ่เป็นเพราะความสามารถทางเทคนิคและการสนับสนุนเฉพาะของโซลูชัน

ทีม Toss เลือกใช้ AdMob เนื่องจากความสามารถในการตรวจสอบโฆษณาแบบเรียลไทม์และบล็อกโฆษณา การวิเคราะห์ที่นำไปใช้ได้จริง และรูปแบบโฆษณาในแอปที่ล้ำสมัย ความสามารถในการตรวจสอบโฆษณาและเลือกว่าจะแสดงโฆษณาต่อไปหรือไม่ช่วยให้ Toss รักษาประสบการณ์การใช้งานแบรนด์ไว้ได้ในขณะที่สร้างรายได้

นอกจากนี้ Toss ให้ความสำคัญกับเกณฑ์ของ Google สำหรับประสบการณ์ของผู้ใช้ (UX) และคุณภาพของโฆษณา ซึ่งสอดคล้องกับความมุ่งมั่นของบริษัทในการรักษาความปลอดภัยของแบรนด์ ความเสถียรทางเทคนิคเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งเนื่องจากแอป Toss Walk มีการแสดงโฆษณามากกว่า 200 ล้านครั้งต่อวัน โครงสร้างพื้นฐานของ Google ทำให้ Toss มั่นใจว่า AdMob จะแสดงโฆษณาอย่างสม่ำเสมอ นอกจากนี้ ทีม Toss ยังพึงพอใจกับการสนับสนุนที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพจาก Google ซึ่งช่วยตอบข้อสงสัยทางเทคนิคและแก้ปัญหาในการดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว

Toss เริ่มต้นจากจุดเล็กๆ โดยใช้ AdMob เพื่อนำเสนอโฆษณาและทำการทดสอบ A/B กับกลุ่มผู้ใช้ขนาดเล็กก่อน จากนั้นจึงค่อยๆ ขยายขอบเขตและขนาด แม้ว่าประสิทธิภาพของโฆษณาจะมีความสำคัญ แต่ Toss ก็ตรวจสอบการเข้าชมอย่างละเอียดเพื่อยืนยันว่าจำนวนผู้ใช้และกิจกรรมต่างๆ ไม่ได้รับผลเสีย นอกจากนี้ Toss ยังออกแบบและทดสอบกลยุทธ์และตำแหน่งโฆษณาต่างๆ เช่น โฆษณาในแอปที่มี UX ผสานรวมกับฟังก์ชันของแอป

โฆษณาที่เล่นได้กระตุ้นให้ผู้ใช้บางส่วนแสดงความคิดเห็นในเชิงบวก ความคิดเห็นดังกล่าวมีประโยชน์อย่างมากสำหรับ Toss และกลายเป็นแหล่งไอเดียสำหรับโครงการริเริ่มในอนาคต

Toss มีรายได้จากโฆษณาพุ่งสูงขึ้น 891% เมื่อเทียบกับปีก่อนนับตั้งแต่เดือนเมษายน 2024 ถึงเมษายน 2025¹ สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือการเปิดตัวโฆษณาไม่ได้ทำให้การขยายฐานผู้ใช้ช้าลง นอกจากนี้ พื้นที่โฆษณาใหม่ก็ไม่ได้ส่งผลเสียต่อการคงผู้ใช้ไว้และการมีส่วนร่วม

ในช่วงเวลาเดียวกันนี้ Toss พบว่าการคงผู้ใช้ไว้ในวันถัดไปสำหรับฟีเจอร์ Toss Walk ของแอปเพิ่มขึ้น 17% เมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากผู้ใช้ทำกิจกรรมการเดินติดต่อกันหลายวันเพื่อรับคะแนนเมื่อบรรลุเป้าหมายจำนวนก้าวที่กำหนดไว้ในฟีเจอร์เครื่องนับก้าว

ผลลัพธ์ดังกล่าวเกิดจาก AdMob ซึ่งมีอัตราการส่งโฆษณามากกว่า 95% และเพิ่ม CPM ได้ 34% เมื่อเทียบกับแพลตฟอร์มสื่อกลาง Toss ก่อนหน้านี้

ความสำเร็จของพาร์ทเนอร์ AdMob เป็นแรงบันดาลใจให้เกิดไอเดียใหม่สำหรับโครงการริเริ่มอื่นๆ ของ Toss ซึ่งสร้างคุณค่าไปพร้อมกับรักษาประสบการณ์ของผู้ใช้ Toss มีแผนจะใช้งาน AdMob เนื่องจากตำแหน่งโฆษณาพรีเมียมที่เคยมีโฆษณาขายตรง และการขยายการให้บริการแอปไปนอกเกาหลีใต้ในอนาคตอันใกล้

¹ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริงอาจแตกต่างกันไป